วันเสาร์ที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ความเป็นมาและกระบวนการกระทำ

ความเป็นมาและกระบวนการกระทำ
เมื่อเดือนธันวาคม 2540 ในการประชุม ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ บรรดาผู้นำประเทศสมาชิกอาเซียนได้ร่วมประกาศ "วิสัยทัศน์อาเซียน 2020 (ASEAN Vision 2020) โดยกำหนดเป้าหมายว่าภายในปี ค.ศ.2020 (พ.ศ.2563) อาเซียนจะมีรูปแบบความร่วมมือที่พัฒนาใกล้ชิดมากขึ้นยิ่งกว่าเดิม ต่อมาในการประชุมผู้นำอาเซียน (ASEAN Summit) ครั้งที่ 9 ในเดือนตุลาคม 2546 ที่บาหลี ผู้นำอาเซียนได้ลงนามในปฏฺญญาว่าด้วยความร่วมมืออาเซียน (Declaration of ASEAN Concord II หรือ Bali Concord II) เพื่อให้เกิดประชาคมอาเซียน (ASEAN Community) ภายในปี พ.ศ.2563 (ค.ศ.2020) โดยจะประกอบด้วย 3 เสาหลัก (pillars) ได้แก่ ประชาคมการเมืองและความมั่นคงอาเซียน (ASEAN Political-Security Community-APSC) ประฃาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community-AEC) และประชาคมสังคมวัฒนธรรมอาเซียน (ASEAN Socio-Cultural Community-ASCC)
ต่อมาในเดือนพฤศจิกายน 2547 ได้มีการประชุมผ็นำอาเซียน ครั้งที่ 10 ณ กรุงเวียงจันทร์ และบรรดาผู้นำอาเซียนได้ประกาศแผนปฏิบัติการเวียงจันทร์ (Vientiane Action Programme) ซึ่งได้สนับสนุนการจัดทำกฏบัตรอาเซียนเพื่อรองรับการจัดตั้งประชาคมอาเซียนภานในปี พ.ศ. 2563 และในเดือนธันวาคม 2548 ได้มีการประชุมผู้นำอาเซียน ครั้งที่ 11 ณ กรุงบาหลี โดยบรรดาผู้นำได้เข้าร่วมกันประกาศหลักการสำคัญในการจัดทำกฏบัตรอาเซียนและได้มอบหมายให้ "คณะผู้ทรงคุณวุฒิ (Eminent Persons Group) ซึ่งประกอบไปด้วยผู้ทรงคุณวุฒิในด้านการต่างประเทศจากแต่ละประเทศสมาชิก เป็นผู้จัดทำข้อเสนอแนะเบื้องต้นและลักษณะทั่วไปของกฏบัตรอาเซียน ซึ่งคณะผู้ทรงคุณวุฒิก็ได้ประชุมหารือร่วมกับภาคส่วนต่าง ๆ จนสามารถสรุปข้อเสนอแนะเบื้องต้นในการจัดทำกฏบัตรในรูปแบบ "รายงานของคณะผู้ทรงคุณวุฒิเรื่องกฏบัตรอาเซียน ในเดือนธันวาคม 2549 และเมื่อเดือนมกราคม 2550 ในการประชุมผู้นำอาเซียน ครั้งที่ 12  ณ กรุงเซบู บรรดาผู้นำได้ร่วมกันประกาศรับรองรายงานของตณะผู้ทรงคุณวุฒิเกี่ยวกับกฏบัตรอาเซียนและได้มอบหมายให้ "คณะทำงานระดับสูงหรือ High Level Task Force ซึ่งประกอบไปด้วยเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่มีความเชี่ยวชาญจากแต่ละประเทศสมาชิกเป็น
ผู้รับผิดชอบจัดทำร่างกฏบัตรอาเซียนและเอกสารสำคัญที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ โดยให้อาศัยหลักการสำคัญที่บรรดาผู้นำได้ร่วมกันประกาศไว้ ณ กรุงบาหลี และกรุงเซบู รวมถึงให้พิจารณาจากข้อเสนอแนะจากรายงานของคณะผู้ทรงคุณวุฒิให้แล้วเสร็จ เพื่อสามารถนำร่างกฏบัตรไปพิจารณาในการประชุมผู้นำอาเซียน ครั้งที่ 13 ณ ประเทศสิงคโปร์ในเดือนพฤศจิกายน 2550 ต่อไป จากนั้นก็จะได้มีการตรวจสอบ รับฟังความคิดเห็น ก่อนผู้นำจะลงนาม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น